Edit

With Mary toward the 150th of the Institute (1872 – 2022)

…The Lord has suggested to us for the preparation of the significant event of the 150th of the foundation of the Institute. We consulted with a special Commission composed of FMA, laity, and young people of the Salesian Family who have offered us a valid contribution of reflections and proposals. The event we are preparing to live is for everyone.

…The stages of the celebration of the 150th To prepare ourselves for the celebration as Institute, we will live a triennial of praise, of gratitude, of new educational and vocational vitality that will be interwoven with the Chapter event according to these themes illumined by the words of Mother  azzarello:  
– 2019-2020 Give thanks: “Let us truly thank the Lord who   gives us many graces” (L 37,10)
– 2020-2021 Accept the mandate: “I entrust them to you.”   2021-2022 Plan the future boldly: “Courage! Let us go ahead with a great and generous heart” (L 47,12)

…We let ourselves be inspired on this journey by the one who traced out the feminine face of the educational charism of Don Bosco, reliving it at Mornese and Nizza Monferrato in a creative and daring way together with the first communities, with the young people, and with the lay collaborators. During these three years, it will be everyone?s commitment to involve the educating communities, especially the young people, in re-discovering Mary Domenica in her richness as a young woman and in the prophetic dimensions of her spirituality and educational mission. In order to give greater depth to this knowledge, we can draw on the material of the Data Bank, of the FMA Studies Center, and of the written and audio-visual resources (films, songs, dramas, etc.…) that the Institute and the Provinces have a wealth of.

Salesian Sisters of Don Bosco Daughters of Mary Help of Christians 124 Sala Daeng Rd, Si Lom, Bang Rak Bangkok 10500 THAILAND

secretary@fma.or.th

(+66) 2-23 48 549

ธารน้ำโรแวร์โน

ธารน้ำโรแวร์โน      แม่น้ำสายเล็กๆ ที่นักบุญมาเรีย มัสซาแรลโล และบรรดาซิสเตอร์ เยาวชนหญิงและเด็ก ๆ เคยมาซักผ้าในบรรยากาศที่คุ้นเคยและสนุกสนาน เป็นช่วงเวลาแห่งความร่าเริง การทำงาน และความเอื้ออาทรต่อกัน

หมู่คณะมอร์เนเซ : “บ้านแห่งความรักพระเจ้า”

หมู่คณะมอร์เนเซ : “บ้านแห่งความรักพระเจ้า” “พระเจ้าเป็นองค์แห่งความรักผู้ใดดำรงอยู่ในความรัก ย่อมดำรงอยู่ในพระเจ้าและพระเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ในเขา”  (1 ยน. 4,16) คุณพ่อจาโกโม คอสตามาญา ได้กล่าวไว้  “ที่คอลเลจโจ ต้องเขียนบนกำแพงศักดิ์สิทธิ์นั้นว่า นี่เป็นบ้านแห่งความรักพระเจ้า!” “มอร์เนเซ เป็นบ้านที่เปี่ยมด้วยความร้อนรนเสมอ บ้านแห่งความกระตือรือร้นเพื่อช่วยวิญญาณ  บ้านแห่งความเสียสละ  บ้านแห่งความนอบน้อมเชื่อฟังที่สมบูรณ์แบบ  บ้านแห่งความเงียบที่ศักดิ์สิทธิ์

โรงเรียนที่มอร์เนเซ (Collegio)

โรงเรียนที่มอร์เนเซ (Collegio)            โรงเรียนที่มอร์เนเซหรือโรงเรียนประจำตั้งอยู่ที่บอร์โกอัลโต ซึ่งเป็นที่ดินของคุณพ่อเปสตารีโน มีการวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 1865  ตามที่คุณพ่อคาร์โล วัลเล คุณพ่อเจ้าอาวาสแห่งมอร์เนเซ และคุณพ่อเปสตารีโน คุณพ่อปลัดได้กำหนด ทั้งนี้เพื่อเป็นการถวายเกียรติแด่ท่านนักบุญอันโตนีโอ แห่งปาดัว

บ้านแม่พระนิรมล

บ้านแม่พระนิรมล บ้านแม่พระนิรมลถูกสร้างขึ้นด้วยความปรารถนาของคุณพ่อเปสตารีโน ตั้งอยู่ตรงข้ามลานหน้าวัด ความตั้งใจแรกของพระสงฆ์ผู้นี้ คือเพื่อประโยชน์ของท่านเอง ในฤดูหนาวเมื่อท่านจะต้องมาที่วัดตั้งแต่เช้ามืด เพื่อฟังแก้บาป ในปี 1867 คุณพ่อเปสตารีโนได้เสนอบ้านหลังนี้ให้เป็นบ้านที่สมาชิกคณะธิดาแม่พระนิรมลประชุมและพักอาศัยอยู่ มาอิน เปโตรนิลลา และเพื่อน ๆ บางคน ได้อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือบรรดาเด็กหญิงในหมู่บ้าน นอกจากนี้ บ้านหลังนี้ยังกลับเป็นการสร้างรากฐานชีวิตของคณะธิดาแม่พระองค์อุปถัมภ์ ที่นักบุญยอห์น บอสโก

บ้านต่าง ๆ ในตำบล

บ้านทั้งหลายในตำบล “พระเจ้าจะทรงสร้างบ้านสำหรับท่าน”  (2 ซมอ. 7,11)      ทั้งสองฟากของเส้นทางที่มุ่งไปยังวัดประจำตำบล มีบ้านช่องที่เรียงราย บ้านเหล่านี้เป็นพยานถึงเหตุการณ์ที่มาอินและเพื่อนธิดาแม่พระนิรมลบางคนได้เริ่มก้าวสู่ชีวิตแบบใหม่ บ้านช่างตัดเสื้อวาเลนตีโน คัมพี (1861 – 1862)           ความคิดที่จะไปหาช่างวาเลนตีโน 

ถนนวัลเจลาตา

ถนนวัลเจลาตา “ขออย่าให้เป็นไปตามใจข้าพเจ้า  …             … แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด” (มธ. 26,39)           หลังที่ได้ย้ายจากวัลโปนัสกา ครอบครัวมัสซาแรลโลไปอาศัยอยู่ที่ถนนวัลเจลาตา ในวันที่ 10 มีนาคม 1858  มาอินมีอายุได้

หน้าต่างวัลโปนัสกา

หน้าต่างวัลโปนัสกา การแสวงหาพระเจ้าเป็นท่าทีสม่ำเสมอในชีวิตจิตของมาอิน ตั้งแต่รับศีลมหาสนิทครั้งแรก พระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิทกลับเป็นพลังและความสุขยินดีของเธอ  ดังเช่นพระเยซูเจ้าที่ทรงแสวงหาเวลาเพื่ออยู่เพียงลำพังกับพระบิดา มาอินก็แสวงหาช่วงเวลาเพื่อพบปะกับองค์พระเจ้าของเธอด้วยความรักอย่างไม่หยุดหย่อน ในตอนเย็นหลังจากงานบ้านลูกสาวชาวนาผู้นี้จะขึ้นไปที่ห้องใต้หลังคา ที่มีหน้าต่างบานหนึ่งซึ่งสามารถมองเห็นวัดประจำตำบลได้แต่ไกล “จากแสงริบหรี่ของตะเกียงตู้ศีลที่สะท้อนบนกระจกหน้าต่างของวัดนั้น เธอส่งใจร่วมเป็นหนึ่งกับชาวบ้านคนอื่น ๆ นมัสการพระเยซูเจ้าและขอบคุณพระองค์สำหรับวันที่ผ่านมาและวอนขอพระพรต่าง ๆ จากพระองค์ ดูเหมือนว่ามาอินไม่อยากจากที่ตรงนั้นเลย และเมื่อปิดหน้าต่างอย่างอ้อยอิ่งเธอจะเพ่งสายตาจับจ้องไปยังวัดอีกครั้ง เหมือนดังว่าวางจิตใจทั้งหมดของเธอไว้เฉพาะพระพักตร์พระองค์ และบอกกับพระองค์ว่า “โอพระเยซูเจ้า ลูกเป็นของพระองค์ทั้งหมด 

วัดใหญ่ : มาอินได้รับและพัฒนาพระคุณแห่งความเชื่อ

วัดใหญ่ มาอินได้รับและพัฒนาพระคุณแห่งความเชื่อ ก่อนที่เราจะปั้นท่านในครรภ์มารดา  เราก็รู้จักท่านแล้วก่อนที่ท่านจะเกิด เราก็แยกท่านไว้เป็นของเราแล้วเราแต่งตั้งท่านให้เป็นประกาศกสำหรับนานาชาติ” ( ยรม.1,5 ) มาอินเกิดวันอังคารที่ 9  พฤษภาคน 1837 เป็นวันที่พระศาสนจักรเทิดเกียติแด่ทูตสวรรค์ผู้อารักขา ในวันเดียวกันนี้เธอได้รับศีลล้างบาปและได้รับชื่อว่า มาเรีย โดเมนิกา ชื่อมาเรียเพื่อเป็นเกียรติแก่คุณยาย และโดเมนิกาเพื่อระลึกถึงคุณปู่  มาเรียยังเป็นชื่อของแม่พระนิรมลทิน และโดเมนิกามีความหมายว่า

บ้านเกิด

บ้านเกิด มาเรีย โดเมนิกา มัสซาแรลโล (มาอิน) เกิดเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ.1837 ในบ้านหลังนี้ เธอเป็นบุตรสาวคนแรกที่ทุกคนรอคอยและต้อนรับด้วยความรัก ครอบครัวของมาอินอาศัยอยู่ในบ้านนี้  ระหว่างปี 1849 – 1850 บ้านหลังนี้…บ้านที่เปี่ยมด้วยคุณค่าของชีวิตที่เริ่มต้น…ทุกช่วงเวลา การตอบรับชีวิต (sí alla

วัดน้อยถวายแด่แม่พระองค์อุปถัมภ์

วัดน้อยถวายแด่แม่พระองค์อุปถัมภ์           ตั้งอยู่ในมัสซาแรลลี  ได้รับการเสกอย่างสง่าและเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่  24  พฤษภาคม 1843 เพื่อเป็นการแสดงออกถึงการรู้คุณที่พระมารดามารีย์ได้ปกป้องประชาชนระหว่างโรคระบาดที่รุนแรงซึ่งเกิดขึ้นระหว่างปี 1835 – 1836         ในช่วงเวลาที่มีการเสกและเปิดวัด